5 ปัจจัยที่สำคัญของเด็ก Gen Y และ เด็ก Gen Z

5 ปัจจัยที่สำคัญของเด็ก Gen Y และ เด็ก Gen Z ที่ให้ความสำคัญมากที่สุด1. เงินเดือน : Gen Y และ Gen Z มีความเห็นตรงกันว่า หากคนทำงานทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มกำลังและความสามารถ ทุกคนย่อมต้องการเงินเดือนที่เหมาะสมเป็นสิ่งตอบแทน2. สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ : เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ 2 Gen ให้ความสำคัญ เนื่องจากสวัสดิการถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการช่วยบริหารคนได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถจูงใจให้พนักงานอยากทำงานกับองค์กรยาวนานขึ้น รวมถึงสามารถดึงดูดให้คนภายนอกอยากมาทำงานกับองค์กรได้มากขึ้นด้วย ดังนั้นการให้สวัสดิการที่ดีนอกจากจะเป็นการใส่ใจคุณภาพชีวิตพนักงานแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความมั่นคงขององค์กร3. หน้าที่รับผิดชอบ : เนื่องจากทั้ง 2 Gen มีมุมมองคล้ายกันในเรื่องภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายถือเป็นการสร้างความท้าทายในชีวิต และเป็นโอกาสในการสร้างเสริมทักษะในด้านต่าง ๆ ยิ่งหากได้ทำงานตรงสายก็จะรู้สึกว่าตนเองได้แสดงศักยภาพในการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ4. การเดินทางสะดวก : คนทำงานส่วนใหญ่ต่างนิยมหาสถานที่ทำงานใกล้บ้านหรือเดินทางได้สะดวก เพื่อช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย รวมถึงช่วยลดสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดจากปัญหาการจราจรติดขัด ดังนั้นหากองค์กรใดอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกต่อการเดินทางก็จะทำให้มีโอกาสในการได้รับความสนใจจากคนทำงานมากขึ้น5. มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน : จุดมุ่งหมายของคนทำงานทุกคน คือการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ดังนั้นองค์กรต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถเติบโตในสายอาชีพได้ เช่น โอกาสในการปรับตำแหน่ง การขึ้นเงินเดือน เพื่อสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจเลือกเข้าทำงานกับองค์กร นอกจากนี้ความก้าวหน้าอาจไม่ใช่แค่การเลื่อนตำแหน่งเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการมอบหมายงานที่ท้าทายมากขึ้น […]

5 วิธีทำงานร่วมกับคน Gen Z

1. ให้พื้นที่และโอกาสในการแสดงความคิดเห็น เนื่องจากด้วยคน Gen Z เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองสูง และมักจะไม่ยอมรับอะไรง่าย ๆ จึงควรให้โอกาสในการให้พวกเขาได้ปล่อย “ของ” กันอย่างเต็มที่ เพื่อให้เขาได้มีส่วนร่วมและสนุกไปกับงานที่ทำ2. ชอบสร้างทางลัดให้กับระบบต่าง ๆ ในองค์กร เนื่องจากคน Gen Z ส่วนใหญ่มักใจร้อน ไม่ชอบงานระบบ อะไรที่เป็นขั้นตอน หรือทำให้ชีวิตยาก องค์กรควรพิจารณาการออกแบบระบบให้ง่ายขึ้น เช่นระบบการเบิกจ่าย ระบบการเบิกใช้อุปกรณ์สำนักงาน3. ลดงานเอกสารให้น้อยลง ชาว Gen Z เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี จึงไม่นิยมชมชอบการทำงานเอกสาร เพราะพวกเขามองว่ามันเสียเวลา ดังนั้นจะดีมากถ้าองค์กรออกแบบ applications ภายในองค์กร ให้เป็นการทำงานได้บนระบบออนไลน์ ทำได้แม้อยู่นอกออฟฟิศ ชาว Gen Z จะปลาบปลื้มมากเป็นพิเศษ4. พิจารณาผลงานจากฝีมือจริง ๆ ไม่ใช่ตามระบบอาวุโส เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นประเด็น sensitive มากสำหรับคน Gen Z เพราะคนกลุ่มนี้ จะยึดมั่น ถือมั่นในความคิด และฝีมือ และมักไม่ยอมรับในระบบอาวุโส เรื่องนี้องค์กรต้องมีเกณฑ์การพิจารณาการเลื่อนเงินเดือน […]

ชาว Gen Z เกิดมาในยุคดิจิตอล

ชาว Gen Z เกิดมาในยุคดิจิตอล และเทคโนโลยีเลยที่มีอิทธิพลต่อ Gen Z มากกว่าคนรุ่นก่อนๆเสียอีก Gen Z คุ้นเคยกับเทคโนโลยีและใช้อย่างชำนาญ จึงทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในวัยเด็ก พฤติกรรม 3 อย่างของ “Generation Z” ที่ต้องจำใส่ใจเพื่อทำการตลาดโดนใจ Gen Z1. เร็วกว่า สั้นกว่า เห็นง่ายความสนใจของ Gen Z นั้นมากที่สุดก็ 8 วินาทีเท่านั้นแหละ และ 11% ของพวก Gen Z ก็เป็นพวกไฮเปอร์สมาธิสั้นเสียด้วยสิ ซึ่งสูงกว่าปี 2003 ที่มีแค่ 7.3% เองพวก Gen Z จะสื่อสารกันเร็วมากไม่เหมือนพวกมิลเลนเนี่ยม Gen Z จะชอบสื่อสารกันด้วยภาพและอิโมจิแสดงอารมณ์ คุยกันแปปเดียว เผลอๆไม่คุยกันด้วยซ้ำ ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายช่องทางเชื่อมต่อผู้คน ทำให้พวก Gen Z กลัวที่จะโดนเพื่อนๆทิ้งหรือลืมด้วย2. สร้างคอนเทนต์ขึ้นมาเองได้เลยในขณะที่พวกมิลเลนเนี่ยมชอบ “แชร์” คอนเทนต์ Gen Z […]

5 ลักษณะเด่นของเด็ก GEN Z

1.เติบโตมากับเทคโนโลยีคน Gen Z เกิดและเติบโตมาในยุคดิจิตัล มาพร้อมกับเทคโนโลยี และอินเตอร์เน็ต จึงทำให้เด็กส่วนใหญ่ ติดโซเชียลมีเดีย 2.ใจร้อนเพราะเติบโตมากับเทคโนโลยี หนุ่มสาว Gen Z จึงมักจะใจร้อน และไม่ค่อยเคยชินกับการรอคอย หรือการทำอะไรนานๆ เด็ก Gen Z ก็จะไม่รอเช่นกัน3.Self centerคน Gen Z มักมองความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ หรือ ในอีกมุม คือค่อนข้างจะโฟกัสในเรื่องความแตกต่างของปัจเจกบุคคล (individual) มากกว่าคนยุคก่อน4.สายแข็ง socialคน Gen Z ใช้ชีวิตอยู่ใน social network เอะอะก็โพสต์ โพสต์ทุกย่างก้าว ทุกสเต็ปการใช้ชีวิต ชอบระบายความในใจลงไปบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค 5.กล้าแสดงออกคน Gen Z มักจะกล้าแสดงออก และกล้าตั้งคำถาม กับผู้ที่อาวุโสกว่า

Generation Z หรือ Gen Z

Generation Z หรือ Gen Z คือคนที่เกิดตั้งแต่ปีพ.ศ.2544 เป็นต้นไป เป็นคนรุ่นที่เกิดมาก็แวดล้อมไปด้วยเทคโนโลยีแล้ว เติบโตมาพร้อมสิ่งอํานวยความสะดวกมากมายที่อยู่แวดล้อม มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีต่างๆ และเรียนรู้ได้เร็ว เพราะพ่อแม่ใช้สิ่งเหล่านี้ในชีวิตประจําวันอยู่แล้ว กลุ่มสุดท้ายนี้มีพฤติกรรมรับสื่อแบบ“ติดสื่อใหม่ ไว้ใจสื่อดั้งเดิม” เป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมในการรับข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คบ่อยที่สุดและมากกว่าเจเนอเรชั่นอื่นๆ รองลงมา คือ สื่อโทรทัศน์สื่อเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่นข่าว หนังสือพิมพ์ และวิทยุ เจเนอเรชั่น Z ยังคงให้ความเชื่อถือในสื่อโทรทัศน์มากต่างกับสื่ออื่นทั้งหมดที่เชื่อถือแค่ในระดับปานกลาง การรับข่าวสารทางสื่อใหม่ของคนกลุ่มนี้รับข่าวสาร จากสํานักข่าวออนไลน์ที่ไม่เป็นทางการ และรับข่าวที่แชร์มาจากคนใกล้ชิดบ่อยกว่าการรับข่าวสารจากสํานักข่าวออนไลน์ที่เป็นทางการ แต่ให้ความเชื่อถือในสํานักข่าวที่เป็นทางการมากกว่าต้นตอข่าวออนไลน์อื่นๆ แนวโน้มในการรับสารของคนกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะมีความเชื่อถือในข่าวสารจากสื่อใหม่มากขึ้น โดยจะเห็นได้ว่า เจเนอเรชั่น Z ในสัดส่วนถึง 70.6% ซึ่งสูงกว่าเจเนอเรชั่นอื่นมาก มีความคิดเห็นว่าสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียจะนําเสนอข่าวด้านการเมืองและประเด็นสําคัญทางสังคมหลายด้าน รองลงมา 66.7% คือเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นข่าว และโทรทัศน์

วิธีทยายช่องว่างของคนแต่ละ Gen

วิธีทยายช่องว่างของคนแต่ละ Gen ด้วย 3 ขั้นตอน1. เข้าใจถึงความแตกต่าง ยอมรับว่าคนเราถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน คนที่มีความเชื่อหรือทัศนคติต่อชีวิตไม่เหมือนเรา เขาไม่ใช่คนไม่ดีเสมอไป 2. ชื่นชมจุดดี แทนที่จะต่อต้าน ให้เราลองมองหาจุดเด่นของคนในแต่ละกลุ่มให้พบ3. บริหารความแตกต่าง เปลี่ยนวิธีการสื่อสารให้เข้าถึงคนแต่ละกลุ่มที่เราต้องทำงานด้วย ยุทธวิธีในการทำงานกับคนต่าง Gen ให้มีความสุข ทำงานกับกลุ่ม Baby Boom จงแสดงความนับถือ รับฟัง และเรียนรู้จากประสบการณ์ของ Baby Boom แล้วพยายามปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าเราจะเก่งกาจแค่ไหนหรือจะประสบความสำเร็ เพียงใดก็ยังคงต้องเรียนรู้อยู่เสมอ อย่าแสดงออกว่าการทำงานหนักคือการถูกเอาเปรียบ เพราะ Baby Boom ให้ความสำคัญต่อหลักการทำงาน ยึดถือวัฒนธรรมองค์กร และเห็นคุณค่าต่อการทำงานอย่างทุ่มเท หากต้องทำงานในองค์กรใหญ่ๆที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ซึ่งบริหารงานโดย Baby Boom ควรพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรเสียก่อนว่ามีการเจริญเติบโตมาอย่างไร ก่อนที่จะเสนอความคิดริเริ่มเพื่อการเปลี่ยนแปลงใดๆทำงานกับกลุ่ม Gen-X ต้องพูดให้กระชับ ชัดเจน และไม่อ้อมค้อม เพราะ Gen-X ชอบความตรงไปตรงมา เราสามารถใช้ Email กลับคนกลุ่มนี้ได้ หากสามารถสื่อสารได้ใจความและตรงเป้าหมาย หากเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ควรพูดต่อหน้า เพราะ Gen-X ไม่ชอบถูกบงการ […]